อย่างแรกให้เช็กจอกันก่อนว่าเปิดสวิตช์อยู่หรือเปล่า ? ปลั๊กไฟเสียบถูกต้องหรือไม่ ?
อันนี้ของมันแน่นอนอยู่แล้วไม่น่าจะมีใครลืมใช่ไหมครับ แต่จริงๆ แล้วเป็นสิ่งที่หลายคนมองข้ามไปทั้งๆ ที่เป็นเครื่องพื้นฐานและเช็กกันง่ายนิดเดียวเอง
เอาละครับ เมื่อเช็กจอเรียบร้อยก็มาเช็กสายสัญญาณกันต่อ สายสัญญาณของจอมีการต่อกับคอมพิวเตอร์อย่างถูกต้องแล้วหรือเปล่า ? สิ่งที่ต้องระวังอย่างหนึ่งก็คือในเครื่องที่มีกราฟิกการ์ดแบบออนบอร์ดมาให้ แล้วติดตั้งการ์ดจอเพิ่มเข้าไป จะมีช่องสำหรับต่อจอภาพอยู่ 2 ส่วน ในกรณีต้องต่อช่องที่ออกมาจากการ์ดที่ใส่เพิ่มเข้าไปนะครับ ซึ่งส่วนมากจะอยู่เป็นพอร์ตที่อยู่ด้านล่าง
อีกกรณีหนึ่งคือกรณีที่เป็นการ์ดจอรุ่นใหม่ มักจะมีช่องต่อจอมาให้ 2 ช่อง 2 แบบ D-Sub 15 Pin กับช่องต่อแบบ DVI ที่ใช้ต่อกับจอแอลซีดีซึ่งมันจะมีการตรวจสอบจอที่ต่ออยู่กับพอร์ตเหล่านี้และส่งสัญญาณภาพออกไป ดังนั้น เป็นไปได้ว่าถ้าการ์ดจอรวน มันก็อาจส่งสัญญาณภาพไปผิดพอร์ต ก็ควรจะลองต่อดูทั้งสองช่องครับ
แต่ถ้าเช็กจนแน่ใจแล้วคราวนี้ต้องมาดูที่คอมพิวเตอร์กันแล้วละครับ ว่ามีอะไรผิดปกติหรือเปล่า ? เช่นมีเสียงร้อง Beep..Beep เป็นจังหวะหรือไม่ ? หรือว่านิ่งเงียบไปเลย ซึ่งเสียง Beep เหล่านี้จะเป็นการฟ้องความผิดพลาด อย่างเช่น การ์ดจอเสีย แรมมีปัญหา หรือเงียบไปเลยอาจจะเป็นซีพียูหรือเมนบอร์ดมีปัญหา งานนี้ส่งให้ช่างจะเหมาะสมที่สุด
วันพฤหัสบดีที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2552
ซ่อนข้อมูลได้ โดยไม่ต้องกลัวใครอีกแล้ว
ทิปนี้คือการซ่อน ไฟล์ต่างๆ ไว้ในรูปไม่ว่าจะเป็น คลิป เพลง แล้วอื่นๆได้สารพัด วิธีทำก็แสนง่าย ไม่ยุ่งยาก แต่เราต้องมีโปรแกรม WinRar ติดตั้งในเครื่องก่อนจากนั้นให้เราหารูปภาพ มา 1 รูป และไพล์ที่จะซ่อนมา 1 ไฟล์ ต่อมาให้เข้าไปที่ไดรฟ์ C:\ แล้วสร้างโฟลเดอร์ชื่อว่า Hide จากนั้นเอาไฟล์รูปภาพและไฟล์ที่จะซ่อนเข้าไปวาง ไว้ในโฟลเดอร์ Hide และทำการบีบไฟล์ด้วย WinRar (นามสกุล .rar)
1. ต่อมาให้เปิด Command Prompt ขึ้นมา โดยเข้าไปที่ Start -> Run พิมพ์ว่า cmd คลิก OK
2. พิมพ์ cd\ (เพื่อเป็นการออกจากโฟลเดอร์ทั้งหมดให้อยู่ในรูปนี้ C:\>)
3. จากนั้น ให้พิมพ์ต่อไปว่า CD Hide แล้วกด Enter จะเข้าไปที่ c:\hide>
4. จากนั้นให้พิมพ์ Copy /b big.jpg + test.rar newfile.jpg แล้วกด Enter (อธิบายง่ายๆ ก็คือ ก๊อปปี้ /b ชื่อรูป.jpg + ชื่อไฟล์ที่จะซ่อนที่เป็น Winrar แล้ว .rar ชื่อไฟล์ใหม่ที่รวม jpg กับ ไฟล์ที่จะซ่อนไว้แล้ว .jpg ) ผลที่ได้ไฟล์ชื่อ newfile.jpg สามารถเปิดดูเป็นรูปภาพปกติทั่วไป แต่จะมีไฟล์ที่เราซ่อนไว้อยู่ภายใน

หมายเหตุ
--- ชื่อไฟล์ตัวอย่างคือ big สามารถเปลี่ยนชื่ออื่นได้ตามต้องการ
--- ชื่อไฟล์ต้องเป็นภาษาอังกฤษ
--- ไฟล์ภาพที่จะเอามาซ่อนควรเปลี่ยนชื่อให้ง่ายก่อน เพื่อความสะดวกตอนการพิมพ์ใน cmd
*** วิธีการเอาไฟล์ที่เราซ่อนไว้ออกมาใช้ไปที่ Star -> All Program -> Winrar -> File -> Open Archive เลือกไฟล์รูปที่เราซ่อนไว้ กด OK เพียงเท่านี้เราก็จะ เปิดไฟล์ข้อมูลลับสุดยอดได้
1. ต่อมาให้เปิด Command Prompt ขึ้นมา โดยเข้าไปที่ Start -> Run พิมพ์ว่า cmd คลิก OK
2. พิมพ์ cd\ (เพื่อเป็นการออกจากโฟลเดอร์ทั้งหมดให้อยู่ในรูปนี้ C:\>)
3. จากนั้น ให้พิมพ์ต่อไปว่า CD Hide แล้วกด Enter จะเข้าไปที่ c:\hide>
4. จากนั้นให้พิมพ์ Copy /b big.jpg + test.rar newfile.jpg แล้วกด Enter (อธิบายง่ายๆ ก็คือ ก๊อปปี้ /b ชื่อรูป.jpg + ชื่อไฟล์ที่จะซ่อนที่เป็น Winrar แล้ว .rar ชื่อไฟล์ใหม่ที่รวม jpg กับ ไฟล์ที่จะซ่อนไว้แล้ว .jpg ) ผลที่ได้ไฟล์ชื่อ newfile.jpg สามารถเปิดดูเป็นรูปภาพปกติทั่วไป แต่จะมีไฟล์ที่เราซ่อนไว้อยู่ภายใน

หมายเหตุ
--- ชื่อไฟล์ตัวอย่างคือ big สามารถเปลี่ยนชื่ออื่นได้ตามต้องการ
--- ชื่อไฟล์ต้องเป็นภาษาอังกฤษ
--- ไฟล์ภาพที่จะเอามาซ่อนควรเปลี่ยนชื่อให้ง่ายก่อน เพื่อความสะดวกตอนการพิมพ์ใน cmd
*** วิธีการเอาไฟล์ที่เราซ่อนไว้ออกมาใช้ไปที่ Star -> All Program -> Winrar -> File -> Open Archive เลือกไฟล์รูปที่เราซ่อนไว้ กด OK เพียงเท่านี้เราก็จะ เปิดไฟล์ข้อมูลลับสุดยอดได้
วันอังคารที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2552
เมื่อเจอเว็บภาษาต่างด้าว?
ทิปนี้จะเล่าให้ฟังต่อไปนี้เป็นทิปเล็กๆ ที่อยากนำมาฝากแม้จะดูไม่ยาก แต่หลายคนก็อาจไม่รู้จะแก้ยังไง เรื่องมีอยู่ว่าพอเข้าไปในเว็บของคนไทยหลายๆ เว็บแล้วพบว่าตัวหนังสือภาษาไทยกลายเป็นภาษาต่างด้าว อ่านไม่รู้เรื่อง หรือบางทีได้รับเมล์มาแล้วก็เป็นภาษาต่างด้าวซึ่งไม่ระบุสัญชาติได้การแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเพื่อให้สามารถอ่านเป็นภาษาไทยนั้นทำง่ายๆ เพียงแค่*** คลิกขวาบริเวณที่อ่านไม่ออก จากนั้นเลือก Encoding -> Thai(Windows) เพียงเท่านี้ก็จะกลายมาเป็นภาษาไทยแล้ว
เรื่องง่ายๆ ของภาษาไทยในวิสต้า
เรื่องของภาษาไทยในวิสต้านั้น ต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่าวิสต้านั้นเป็นโอเอสที่สามารถใช้งานได้ทุกภาษา เพียงแต่เราจะต้องไปกำหนดค่าคีย์บอร์ดให้สามารถใช้งานได้ ซึ่งเทคนิคที่จะพูดถึงต่อไปนี้ยังมีประโยชน์สำหรับเพื่อนๆ ที่เพิ่งลงวินโดวส์ใหม่ เพราะทุกครั้งที่มีการติดตั้งวินโดวส์ใหม่ ส่วนของภาษาไทยจะยังใช้งานไม่ได้ เราต้องเข้าไปปรับค่ากันก่อน
---------วิธีการก็ง่ายๆ (แต่ยาวหน่อย) เริ่มต้นคลิกปุ่ม Start -> Control Panel -> Clock, Language, and Region -> Regional and Language Options เลือกแท็บ Keyboard ในแท็ป General กรอบ Installed services ให้คลิกปุ่ม Add จากนั้นให้เลื่อนหาภาษาที่ต้องการ เช่น Thai แล้วคลิก Keyboard เพื่อเลือกประเภทของคีย์บอร์ดภาษาไทยที่จะใช้ ส่วนใหญ่คนจะนิยมให้แบบ Thai Kedmanee คลิก OK
---------นอกจากการทำให้คีย์บอร์ดสามารถพิมพ์ภาษาไทยได้แล้ว อีกหนึ่งเรื่องที่เพื่อนๆ ไม่ควรลืมคือการกำหนดปุ่มในการเปลี่ยนภาษาไทยอังกฤษโดยเราจะกำหนดให้ปุ่มที่ใช้เป็นตัวหนอน วิธีการคือคลิกแท็บ Advanced Key Settings คลิก Between input languages คลิกปุ่ม Change Key Sequence ในกรอบ Switch Input Language เลือก Grave Accent (‘) คลิก OK เมื่อเราตั้งค่าต่างๆ เสร็จก็คลิก Apply
---------วิธีการก็ง่ายๆ (แต่ยาวหน่อย) เริ่มต้นคลิกปุ่ม Start -> Control Panel -> Clock, Language, and Region -> Regional and Language Options เลือกแท็บ Keyboard ในแท็ป General กรอบ Installed services ให้คลิกปุ่ม Add จากนั้นให้เลื่อนหาภาษาที่ต้องการ เช่น Thai แล้วคลิก Keyboard เพื่อเลือกประเภทของคีย์บอร์ดภาษาไทยที่จะใช้ ส่วนใหญ่คนจะนิยมให้แบบ Thai Kedmanee คลิก OK
---------นอกจากการทำให้คีย์บอร์ดสามารถพิมพ์ภาษาไทยได้แล้ว อีกหนึ่งเรื่องที่เพื่อนๆ ไม่ควรลืมคือการกำหนดปุ่มในการเปลี่ยนภาษาไทยอังกฤษโดยเราจะกำหนดให้ปุ่มที่ใช้เป็นตัวหนอน วิธีการคือคลิกแท็บ Advanced Key Settings คลิก Between input languages คลิกปุ่ม Change Key Sequence ในกรอบ Switch Input Language เลือก Grave Accent (‘) คลิก OK เมื่อเราตั้งค่าต่างๆ เสร็จก็คลิก Apply
วันจันทร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2552
เพิ่มประสิทธภาพให้ฮาร์ดดิสก์ SATA
วิสต้าพีซีของเพื่อนๆ ใช้ฮาร์ดดิสก์แบบ SATA รึเปล่า ? ถ้า..ใช้สามารถรีดประสิทธิภาพความเร็วของการทำงานได้เพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยความเร็วที่เพิ่มขึ้นของฮาร์ดดิสก์มาจากการเปิดการทำงานของ Write Caching ซึ่งมันจะทำให้ข้อมูลที่ต้องการบันทึกลงบนฮาร์ดดิสก์ถูกบันทึกลงบนหน่วยความจำแคชที่มีความเร็วมากกว่า ก่อนที่จะเขียนลงฮาร์ดิสก์อีกทีหนึ่ง โดยหลังจากข้อมูลดังกล่าวถูกบันทึกลงแคชแล้ว มันจะแจ้งกลับไปยังระบบปฏิบัติการว่า เขียนข้อมูลเสร็จแล้ว
สำหรับวิธีเพิ่มความเร็วให้กับการทำงานของฮาร์ดดิส SATA มีดังนี้
- คลิ้กปุ่ม Start เลือก Control Panel คลิ้ก System and Maintenance แล้วเลือก Device Manager
- คลิ้กเครื่องหมายบอกหน้ารายการ Disk Drives
- คลิ้กขวาบนไอคอนฮาร์ดดิสก์ SATA เลือก Properties
- คลิ้กแท็บ Policies สังเกตในกรอบ Write Cachine and Safe Removal เลือกเช็กบ็อกซ์หน้าหัวข้อ Enable advanced performance
- คลิ้กปุ่ม OK แล้วปิดหน้าต่าง Device Manager
เพียงแค่นี้ ประสิทธ์ภาพการทำงานของระบบก็จะเร็วขึ้นอีกระดับหนึ่งแล้ว
สำหรับวิธีเพิ่มความเร็วให้กับการทำงานของฮาร์ดดิส SATA มีดังนี้
- คลิ้กปุ่ม Start เลือก Control Panel คลิ้ก System and Maintenance แล้วเลือก Device Manager
- คลิ้กเครื่องหมายบอกหน้ารายการ Disk Drives
- คลิ้กขวาบนไอคอนฮาร์ดดิสก์ SATA เลือก Properties
- คลิ้กแท็บ Policies สังเกตในกรอบ Write Cachine and Safe Removal เลือกเช็กบ็อกซ์หน้าหัวข้อ Enable advanced performance
- คลิ้กปุ่ม OK แล้วปิดหน้าต่าง Device Manager
เพียงแค่นี้ ประสิทธ์ภาพการทำงานของระบบก็จะเร็วขึ้นอีกระดับหนึ่งแล้ว
7 วิธีนำไปสู่ความปลอดภัยจากแฮกเกอร์
1. อัพเดตระบบปฏิบัติการและโปรแกรมต่างๆ โดยเฉพาะโปรแกรม Antivirus ที่คุณใช้งานอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นวินโดวส์หรือระบบปฏิบัติการตัวอื่นๆ บางครั้งย่อมต้องมีบั๊ก มีช่องโหว่ที่อาจจะเอื้อให้แฮกเกอร์สามารถเจาะระบบเข้ามาได้
2. ถึงจะมีโปรแกรม Antivirus อยู่แล้วแต่บางครั้งก็อาจจะมีบางตัวที่หลุดรอดเข้ามาได้ วิธีการดีที่สุดก็คือควรสแกนอุปกรณ์เก็บข้อมูลทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการ์ดหน่วยความจำ หรือ Flash Drive ต่างๆ ก่อนนำใช้งาน
3. ติดตั้ง Firewall เพื่อป้องกันการโจมตีจากแฮกเกอร์และเป็นการป้องกันการรับ-ส่งข้อมูลที่คุณไม่ต้องการทั้งจากโปรแกรมสปายแวร์เอง หรือโปรแกรมอื่นๆ ที่อาจจะเป็นการเปิดช่องโหว่ในการโจมตีได้อีก
4. ระมัดระวังการเล่นอินเทอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะเว็บสำหรับผู้ใหญ่ทั้งหลาย ถ้าเข้าไปอาจจะติดไวรัสหรือโดนแฮกโดยไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ
5. บล็อกการทำงานของสปายแวร์ โดยอาจจะใช้ Firewall อย่างที่ได้กล่าวไป หรือใช้โปรแกรม Anti-Spyware มากวาดล้างเลย อย่าปล่อยให้มีสายลับวายร้ายมาอาศัยในเครื่องคุณ
6. ฝึกตัวเองให้เป็นคนรอบคอบ และจำให้ขึ้นใจว่าปลอดภัยไว้ก่อน การให้ข้อมูลส่วนตัวที่สำคัญบางอย่างผ่านอินเตอร์เน็ตต้องทำอย่างระมัดระวัง มีอีกวิธีการที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจได้มากขึ้น อย่างเช่น การเข้ารหัส ข้อมูลก่อนส่ง หรือกรอกข้อมูลในเว็บไซต์ที่เชื่อถือได้และมีระบบรักษาความปลอดภัยหนาแน่นเท่านั้น
7. ติดตามข่าวสาร รูปแบบการโจมตีใหม่ๆ อยู่เสมอเพื่อที่จะได้ระมัดระวังและหาทางป้องกันภัยที่อาจจะเกิดขึ้นกับตัวคุณตลอดเวลา
2. ถึงจะมีโปรแกรม Antivirus อยู่แล้วแต่บางครั้งก็อาจจะมีบางตัวที่หลุดรอดเข้ามาได้ วิธีการดีที่สุดก็คือควรสแกนอุปกรณ์เก็บข้อมูลทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการ์ดหน่วยความจำ หรือ Flash Drive ต่างๆ ก่อนนำใช้งาน
3. ติดตั้ง Firewall เพื่อป้องกันการโจมตีจากแฮกเกอร์และเป็นการป้องกันการรับ-ส่งข้อมูลที่คุณไม่ต้องการทั้งจากโปรแกรมสปายแวร์เอง หรือโปรแกรมอื่นๆ ที่อาจจะเป็นการเปิดช่องโหว่ในการโจมตีได้อีก
4. ระมัดระวังการเล่นอินเทอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะเว็บสำหรับผู้ใหญ่ทั้งหลาย ถ้าเข้าไปอาจจะติดไวรัสหรือโดนแฮกโดยไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ
5. บล็อกการทำงานของสปายแวร์ โดยอาจจะใช้ Firewall อย่างที่ได้กล่าวไป หรือใช้โปรแกรม Anti-Spyware มากวาดล้างเลย อย่าปล่อยให้มีสายลับวายร้ายมาอาศัยในเครื่องคุณ
6. ฝึกตัวเองให้เป็นคนรอบคอบ และจำให้ขึ้นใจว่าปลอดภัยไว้ก่อน การให้ข้อมูลส่วนตัวที่สำคัญบางอย่างผ่านอินเตอร์เน็ตต้องทำอย่างระมัดระวัง มีอีกวิธีการที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจได้มากขึ้น อย่างเช่น การเข้ารหัส ข้อมูลก่อนส่ง หรือกรอกข้อมูลในเว็บไซต์ที่เชื่อถือได้และมีระบบรักษาความปลอดภัยหนาแน่นเท่านั้น
7. ติดตามข่าวสาร รูปแบบการโจมตีใหม่ๆ อยู่เสมอเพื่อที่จะได้ระมัดระวังและหาทางป้องกันภัยที่อาจจะเกิดขึ้นกับตัวคุณตลอดเวลา
วันศุกร์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2552
Hidden File ไม่กลับมา
เพื่อนๆเคยเจอปัญหาเช่นนี้หรือไม่ ? : พอซ่อนโฟลเดอร์งานที่ Drive ( E: ) โดยเลือกทำใน Hidden เพื่อซ่อนงาน บางอย่างไว้ซึ่งโฟลเดอร์งานก็หายไปแต่พอจะเรียกกลับมาใช้งานกลับไม่โชว์โฟลเดอร์ที่ซ่อนไว้ ไปแก้ใน Tool -> Folder Options โดยเลือกคำสั่ง Show hidden files and folder แต่โฟลเดอร์งานของผมก็ยังไม่โชว์ รีสตาร์ตเครื่องไปหลายรอบ ก็ยังไม่กลับมา
------ ถ้าเจอปัญหานี้ ถ้าวิธีธรรมดาไม่ได้ผล ลองแก้ไขในระบบ Registry ดูครับ
1. ให้ไปที่ Start -> Run -> แล้วพิมพ์ regedit
2. คลิกสัญลักษณ์หน้าเมนู HKEY-LOCAL-MACHINE -> Software -> Microsoft ->Windows -> CurrentVersion -> Explorer -> Advanced -> Folder -> Hidden -> SHOWALL
------ ถ้าเจอปัญหานี้ ถ้าวิธีธรรมดาไม่ได้ผล ลองแก้ไขในระบบ Registry ดูครับ
1. ให้ไปที่ Start -> Run -> แล้วพิมพ์ regedit
2. คลิกสัญลักษณ์หน้าเมนู HKEY-LOCAL-MACHINE -> Software -> Microsoft ->Windows -> CurrentVersion -> Explorer -> Advanced -> Folder -> Hidden -> SHOWALL
3. เมื่อพบแล้วให้เปลี่ยนค่า CheckedValue เปลี่ยนจาก 0 เป็น 1 น่าจะช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้ครับ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)